เทียนปูจา หรือ เทียนบูชา เป็นหนึ่งในเครื่องรางอาถรรพ์ มูเตลูแห่งล้านนา

กล่าวกันว่า…เทียนบูชานั้นไม่มีประวัติการสร้างว่านิยมทำกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เทียนปูจาเป็นหนึ่งในเครื่องรางที่สำคัญของชาวล้านนาโดยมีความเชื่อและยึดมั่นในเทียนปูชาเป็นอย่างมากว่าอักขระล้านนา มนต์คาถา และพลังจิตที่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายได้ทำการปลุกเสกนั้น

จะสามารถช่วยให้เกิดปาฏิหาริย์และส่งเสริมชีวิตผู้จุดเทียนปูชาในด้านต่างๆตามที่ได้ลงอักขระและปลุกเสกไว้

เทียนปูชานี้….เป็นการหลอมรวมระหว่างพิธีกรรมทางพุทธและไสยศาสตร์จนแทบจะแยกกันไม่ออก

เทียนปูชานี้….เป็นการหลอมรวมระหว่างพิธีกรรมทางพุทธและไสยศาสตร์มูเตลูจนแทบจะแยกกันไม่ออกในทางศาสตร์ความเชื่อ เมื่อพลังจิตพลังใจ อักขระคาถาจากอาจารย์ผู้จัดทำ ได้บริกรรมฝากฝังลงกับแท่งเทียน ผสานเข้ากับพลังความปรารถนาของเจ้าชะตา ก็จะเกิดเป็นกระแสช่วยดลบันดาลให้เปลวเทียนกระตุ้น, ส่งเสริม, ปัดเป่าเผาไหม้, ช่วยให้ชีวิตรุ่งโรจน์, ช่วยให้ชีวิตผ่อนคลาย, ช่วยให้ชีวิตเป็นไปตามแรงอธิษฐาน ฯลฯ

สมัยก่อนนั้น….ตามวัดวาอารามต่างๆในล้านนา ก็มักจะมีเทียนลงอักขระไว้ให้บูชากันแทบทุกวัด หรือสำนักอาจารย์ที่มีชื่อเสียงต่างๆ ก็จะมีเทียนบูชาตามตำรับของแต่ละท่านในการทำเทียนจะต้องใช้ทั้งคาถาที่สืบทอดมาซึ่งเป็นอักขระล้านนาโบราณ (ซึ่งมีเยอะมากหลากหลาย เลือกให้เหมาะสมกับแต่ละดวงชะตา หรือสถานการณ์ก็ได้) และการบริกรรมลงเทียน เมื่อจัดทำสำเร็จเป็นเล่มเทียนมาแล้ว ก็จะส่งต่อให้กับเจ้าของเทียนนั้น ไปจุดบูชาได้ที่บ้านตนเองเทียนบูชานั้น หากทำให้ถูกต้องครบครัน ยังจะประกอบอาศัยธาตุทั้งสี่เข้าร่วม คือขี้ผึ้ง เป็นวัสดุธาตุดิน, เปลวไฟ เป็นแหล่งธาตุไฟ, น้ำตาเทียน เป็นส่วนหนึ่งของธาตุน้ำ, เปลวไฟที่โอนไหว คือกระแสธาตุลมแต่การจุดเทียนยันต์หรือมนต์คาถาเหล่านี้ ก็ขึ้นอยู่กับแรงศรัทธาความเชื่อเป็นสำคัญ หากเจ้าชะตาไม่มีความความเชื่อและศรัทธาในศาสตร์ดังกล่าว ก็สามารถแสวงหาสิ่งช่วยส่งเสริมชีวิตในด้านอื่นๆ ได้

ข้อควรระวัง

สำคัญมาก เทียนยันต์นั้นมีเปลวไฟสูงกว่าเทียนทั่วไป ดับยาก และมีการบรรจุอักขระไว้ภายใน ควรจุดในที่อากาศถ่ายเท และเฝ้าดูอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันอันตรายจากเปลวไฟ อย่าให้เทียนดับ โดยให้เทียนนั้นละลายไหม้จนดับไปเอง กรณีเทียนดับก่อน สามารถจุดไฟต่อได้

วิธีการบูชาเทียน การจุดเทียนด้วยตนเอง

1. เมื่อได้รับเทียนบูชาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแบบลงชื่อในแท่งเทียนหรือไม่ก็ตาม ให้เก็บรักษาเทียนไว้ในที่เหมาะสม ไม่ให้ใครเหยียบย่ำข้ามผ่านโดยเจตนา (กรณีเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่ได้เจตนา ไม่เป็นไร)
2. เมื่อถึงวาระฤกษ์ที่เหมาะสมหรือวันที่ดีแล้ว เช่น วันนักขัตฤกษ์ต่างๆ, วันประเพณี, วันที่อาจารย์ได้บอกเอาไว้ ฯลฯ ค่อยทำการจุดเทียนปูชา
3. ตั้งจิตอธิษฐานในสิ่งที่ปรารถนา (ห้ามขอในสิ่งที่ผิดศีลธรรม) แล้วนำไปจุดหน้าหิ้งพระหรือหน้าบ้าน หรือสถานที่ๆเหมาะสม อากาศถ่ายเทได้สะดวก